ทุกสนาม ทุกเวลา ทุกการลงทุน

ข่าวเรื่อง.....

น้ำ รพีภัทรกับความฝันในวัยเด็ก ติดตามข่าวสาร และช่องทาง แทงไก่ชนไลน์

น้ำ รพีภัทรกับความฝันในวัยเด็ก

เรื่องราวของชายหนุ่มที่มีความฝันในวัยเด็ก นี่เป็นเรื่องราวของ น้ำ รพีภัทร จากความฝันในวัยเด็ก สู่เซียนไก่ชนเงินล้าน ที่เขาได้สร้างฟาร์มเป็นของตัวเอง เป็นคนหนึ่งที่น่านับถือมากๆที่สามารถนำความฝันวัยเด็กให้เป็นจริงด้วย

น้ำ รพีภัทร เขาได้สร้างฟาร์มไก่ชนในชื่อว่า รพีภัทรฟาร์ม เป็นฟาร์มที่รมรื่นมากๆ ด้วยที่ดิน 8 ไร่ ด้านหน้าเป็นลานหญ้าโล่งกว้าง มีบ่อปลาขนาดใหญ่ และลึกเข้าไปข้างหน้าเห็นบ้านหลังใหญ่ทรงทันสมัยตั้งอยู่ ข้างกันนั้นเป็นเล้าไก่และคอกควาย

น้ำ รพีภัทร

น้ำ รพีภัทรจากความฝันในวัยเด็ก สู่เซียนไก่ชนเงินล้าน

“ ผมเป็นคนนครนายก แต่ตอนเด็กๆ อยู่บ้านในตลาดของตัวอำเภอบ้านนา แต่ว่าปู่ย่าตายายและญาติพี่น้องมีอาชีพทำนากันอยู่ในละแวกนี้ ช่วงวันหยุดหรือเทศกาลผมก็มาอยู่บ้านย่าทวดที่เป็นจุดศูนย์รวมของญาติๆ ได้มาเล่นสนุก ขี่จักรยาน ยิงนก ตกปลา ชนไก่ จึงคุ้นเคยกับพื้นที่ตรงนี้ดี ”

ตั้งแต่เด็กจนโต น้ำ รพีภัทรไม่เคยคิดฝันถึงวงการบันเทิงแม้แต่น้อย แต่ด้วยหน้าตาคมเข้มและรูปร่างสูงใหญ่ บรรดาแมวมองในสมัยนั้นจึงพยายามติดต่อเขาให้เข้าสู่วงการเสมอ จนวันหนึ่งมีโมเดลลิ่งแห่งหนึ่งได้ส่งประวัติและรูปถ่ายของเขาเข้าประกวดดัชชี่บอยแอนด์เกิร์ล ปี 2001

“ สมัยยี่สิบปีที่แล้วโมเดลลิ่งยังให้นามบัตรและขอเบอร์โทรศัพท์บ้านกันอยู่เลย โมเดลลิ่งส่งรูปและประวัติของผมไปประกวดดัชชี่บอยฯ เราก็ไม่รู้ว่าตัวเองจะเอาความสามารถอะไรไปโชว์ แล้วก็เป็นเด็กขี้อายด้วย แต่ถามแม่กับเพื่อนๆ ก็บอกว่าให้ไปลองดู แล้วก็ผ่านเข้ารอบมาเรื่อยจนชนะการประกวด ”

ในอายุ 17 ปี ต้องเปลี่ยนแปลงชีวิตครั้งใหญ่เพื่อเตรียมตัวพร้อมเข้าวงการบันเทิง เขาต้องนั่งรถเข้ากรุงเทพฯ ในวันเสาร์อาทิตย์ เพื่อเริ่มเรียนพื้นฐานการเป็นนักแสดง ตั้งแต่การปรับบุคลิกภาพ การแสดง และการร้องเพลง สุดท้ายน้ำต้องเลือกทิ้งชีวิตนักเรียนมัธยม 6 ที่จังหวัดนครนายก และเข้ามาอยู่ในกรุงเทพฯ เพื่อเป็นนักแสดงสังกัดช่อง 7 อย่างเต็มตัว

น้ำ รพีภัทร

และละครที่สร้างชื่อให้กับเขาคือ เบญจา คีตา ความรัก ที่เขารับบทเป็น สามภพ หนุ่มมาดเนี้ยบลูกคุณหนู หนึ่งในตัวเด่นของเรื่อง จากนั้นกราฟความนิยมของเขาก็พุ่งสูง กลายเป็นดาราดาวรุ่งมาแรงและขึ้นแท่นพระเอกเบอร์หนึ่งของช่องในที่สุด ช่วงเวลานั้นเขาใช้ชีวิตอย่างเต็มที่ ถึงกับมีฉายาว่าเป็น ‘ เด็กแสบของช่อง ’

“ เมื่อก่อนผมเป็นคนสุขนิยมมากนะ เอาสุขไว้ก่อน แล้วช่วงนั้นยังเด็ก ร่างกายแข็งแรง เที่ยวแล้วไปทำงานเช้าได้ อาจไปแบบหน่วงๆ แต่ฟื้นตัวไว ผมใช้ชีวิตเต็มที่นะ ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิต ถือว่ามันมาก และใช้ชีวิตอย่างนั้นมานานพอสมควรเลย ”

จุดเปลี่ยนของหนุ่มสุขนิยม เกิดขึ้นจากคำถามของคนรอบข้างและความรู้สึกเคว้งคว้างในชีวิตที่ต้องหาหลักยึดให้ได้

“ มีนักข่าวและคนรอบข้างถามตลอดว่า นอกจากงานแสดงแล้วผมมีธุรกิจอะไร หรืออยากทำอะไรบ้างไหม คำตอบของผมคือ ไม่รู้ เพราะผมไม่ได้อยากทำอะไรหรือสนใจอะไรเลย แต่พอช่วงสักอายุยี่สิบห้าปีที่ต้องเจอกับมรสุมเรื่องความรัก ในใจรู้สึกเคว้งๆ ต้องหาหลักอะไรมายึดไว้ ผมเลยย้อนนึกถึงตัวเองว่าตอนเด็กเราชอบอะไรที่เราอยู่กับมันได้นานทั้งวัน ไม่ฟุ้งซ่าน ก็ได้คำตอบว่า เลี้ยงไก่ ”

น้ำเริ่มกลับมาคลุกคลีกับการเลี้ยงไก่อีกครั้ง และหลงใหลมันมากเหมือนที่เคยเป็นมาในวัยเยาว์ จนต่อมาเขาก็พัฒนาการเลี้ยงเป็นฟาร์มไก่ชนขนาดย่อมในหมู่บ้านย่านดอนเมือง แต่ด้วยสภาพแวดล้อมที่ไม่เอื้ออำนวย กลายเป็นตัวเร่งเร้าให้เขาต้องหาทางออก

รพีภัทรฟาร์ม

“ เรามีปัญหาเรื่องที่อยู่ของไก่ไปรบกวนบ้านรอบข้าง พอปรึกษาแม่กับยาย แม่ก็บอกว่าให้ย้ายมาอยู่ตรงที่ดินตรงนี้ ซึ่งเป็นที่ดินที่ยายยกให้แม่อยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องไปเสียเงินซื้อใหม่ ผมก็มาลงทุนเอง สร้างเล้าไก่ก่อนเลย บ้านตัวเองยังไม่มีเลยตอนนั้น ”

4 ปีที่แล้ว น้ำไปกลับกรุงเทพฯ-นครนายกบ่อยขึ้น เพราะเริ่มลงหลักปักฐานด้วยการขยายฟาร์ม พร้อมไปกับการสร้างบ้านหลังใหญ่สำหรับครอบครัว และอีก 2 ปีให้หลังเขาก็พาทั้งครอบครัวย้ายมาตั้งรกรากที่นี่ถาวร

“ เป็นความตั้งใจของผมอยู่แล้วที่จะย้ายกลับมาอยู่ต่างจังหวัดและทำในสิ่งที่รัก ตอนที่คบกับมินตรา ก่อนจะแต่งงานก็ถามเขาว่า ถ้าวันหนึ่งเราย้ายมาอยู่ต่างจังหวัดเขาจะโอเคไหม พอเขาบอกว่า พี่อยู่ที่ไหนหนูอยู่ที่นั่น เราก็สบายใจ ”

อีกเหตุผลหนึ่งที่เขาพาครอบครัวหลีกหนีจากความวุ่นวายของเมืองหลวง เพราะตั้งใจอยากให้ลูกๆ ทั้งสองเติบโตในแบบ ‘ เด็กบ้านทุ่ง ’ เหมือนตัวเขาเอง

รพีภัทรฟาร์ม

รพีภัทรฟาร์ม

พื้นที่ภายในฟาร์ม

เริ่มตั้งแต่การขยายพันธุ์ การเพาะเลี้ยง ตลอดไปจนถึงการฝึกชน จึงทำให้ไก่ที่ออกจากฟาร์มเป็นที่ต้องการของตลาด ซึ่งไก่ชนที่เลี้ยงส่วนใหญ่ภายในฟาร์มจะเป็นไก่สายพันธุ์พม่า เพราะเป็นสายพันธุ์ที่มีความหลากหลายเชิงชน จึงได้เลือกที่จะเพาะและพัฒนาสายพันธุ์พม่าเป็นหลัก

แบ่งโซนการเลี้ยง อย่างมีขั้นตอน

ในขั้นตอนของการเลี้ยงไก่ชนให้มีคุณภาพ คุณน้ำ บอกว่า จะแบ่งการเลี้ยงออกเป็น 3 ขั้นตอน โดยแต่ละขั้นตอนจะมีลูกน้องดูแลเฉพาะทาง โดยที่แต่ละคนจะมีหน้าที่เป็นของตนเอง จึงทำให้ไก่ชนที่ออกจากฟาร์มเป็นไก่ชนที่มีคุณภาพ เพราะผ่านการดูแลเป็นอย่างดีในทุกขั้นตอนของการเลี้ยง

การคัดเลือกพ่อพันธุ์ที่นำมาผสมกับแม่พันธุ์นั้น คุณน้ำจะเลือกพ่อพันธุ์ที่ผ่านการชนมาแล้วและที่สำคัญอาจเป็นตัวเก่งที่ไปชนจนได้รับรางวัล มาผสมกับแม่พันธุ์ที่คิดว่ามีความแข็งแรงลักษณะทรงดี จัดเตรียมไว้ โดยพ่อพันธุ์ 1 ตัว สามารถผสมกับแม่พันธุ์ได้ 5-6 ตัว ต่อวัน

พื้นที่สำหรับเพาะพันธุ์

ฟาร์มจะเน้นให้ผสมกันแบบตามธรรมชาติ พอเห็นว่าผสมติดดีแล้ว ก็จะปล่อยให้แม่ไก่ออกไข่ จากนั้นก็จะปล่อยให้ฟักเองตามธรรมชาติ ใช้เวลาในการฟักประมาณ 21 วัน เมื่อได้ลูกไก่ออกมาแล้ว ก็ปล่อยให้แม่ไก่เลี้ยงลูกไก่เอง โดยที่ไม่ต้องไปยุ่งเกี่ยวอะไรมาก ก็จะทำให้ประหยัดต้นทุนในเรื่องนี้ไปด้วย

ซึ่งการที่ให้แม่ไก่เลี้ยงเองก็จะช่วยให้ไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้าในการกกลูกไก่ ก็ปล่อยให้แม่ไก่เลี้ยงไป ซึ่งในช่วงที่แม่ไก่เลี้ยงลูกก็จะเป็นช่วงได้พักในการวางไข่ไปด้วยในตัว ส่วนอาหารก็มีทั้งอาหารข้นและเสริมอย่างอื่นเข้าไปด้วย

พ่อแม่พันธุ์

แม่ไก่จะเลี้ยงลูกไก่ตั้งแต่ฟักออกจากไข่ใช้เวลาประมาณ 2 เดือน ก็จะนำลูกไก่ทั้งหมดมาทำวัคซีนตามตารางที่กำหนด และจับลูกไก่ทั้งหมดแยกออกมาจากแม่พันธุ์โดยนำไปเลี้ยงในฝูงที่มีไก่รุ่นเดียวกัน และบางส่วนก็จะให้กับลูกฟาร์มที่ติดต่อกันอยู่นำไปเลี้ยงต่อไป และนำแม่พันธุ์ไปผสมพันธุ์กับพ่อพันธุ์ต่อไป

เมื่อลูกไก่ที่ปล่อยเลี้ยงตามฝูงได้อายุประมาณ 5-6 เดือน ก็จะนำกลับเข้ามาภายในฟาร์มโดยตัวเมียพร้อมไข่จะให้ค่าเลี้ยงกับลูกฟาร์มตัวละ 500 บาท และตัวผู้ให้ค่าเลี้ยงอยู่ที่ตัวละ 1,500 บาท โดยไก่ที่ซื้อกลับคืนมาจะต้องเป็นไก่ที่ผสมพันธุ์จากรพีภัทรฟาร์มเท่านั้น โดยที่ลูกฟาร์มที่รับไปเลี้ยงต้องไม่นำไก่จากที่อื่นมาผสมปนกัน

ไก่ชนโตสมบูรณ์

พอได้ไก่ที่เลี้ยงจากฝูงมาแล้ว ก็จะค่อยๆ จับตัวผู้แต่ละตัว มาทำการปรับสภาพ ในเรื่องของการเปลี่ยนอาหาร ในเรื่องของการเลี้ยงภายในสุ่ม เพราะไก่รุ่นเมื่อจะเลี้ยงให้เป็นไก่ชน เขาก็จะเหมือนนักกีฬาที่เราต้องนำมาเลี้ยงดูชั้นเชิงก่อน

เพื่อให้เห็นแววการต่อสู้ จากนั้นเราก็ฝึก ดูแลไปจนสวยสมบูรณ์ก็จะให้ผู้ที่สนใจได้มาเลือกซื้อตามความชอบ เพื่อนำไปเลี้ยงหรือชนต่อไป

หลักการตลาดที่ดี ต้องนำไก่ของฟาร์มไปลงสนาม

ไก่ชนที่ผ่านมือในการเลี้ยงทั้งหมดภายในฟาร์ม เขารักและใส่ใจทุกตัวเท่ากันหมด เพราะเมื่อได้ลงมือเลี้ยงแล้วก็ทำทุกอย่างเต็มที่เต็มกำลังฝีมือ จึงทำให้รู้สึกว่ารักไก่ชนทุกตัว ถึงแม้ว่าอนาคตไก่ตัวนั้นจะต้องจำหน่ายให้กับผู้ที่สนใจซื้อไปเลี้ยงต่อก็ตาม

การเลี้ยงไก่ชน สิ่งที่จะทำให้ตลาดของฟาร์มเดินไปได้ ก็คือการนำไก่ของฟาร์มไปชนไปลงสนาม เพราะถ้าหากไม่เอาไก่ในฟาร์มไปชนเลย คนก็จะไม่เคยเห็นว่าไก่ในฟาร์มชนเป็นยังไงบ้าง และที่สำคัญก็จะทำให้คนไม่รู้จัก

เพราะฉะนั้น ต้องพยายามนำไก่ในฟาร์มออกไปตามที่ต่างๆ เพื่อให้คนได้รู้จัก เมื่อคนที่ซื้อไปเลี้ยงต่อเห็นว่าไก่ชนเราดี ต่อไปเดี๋ยวเขาก็กลับมาซื้อใหม่ ของแบบนี้ก็จะบอกกันไปปากต่อปาก และที่สำคัญการที่ไก่ชนเราออกชนที่สนามได้จริง ก็ยิ่งการันตีสินค้าภายในฟาร์มได้เป็นอย่างดี

ซึ่งไก่ในฟาร์มมีหลายราคา โดยตัวผู้เป็นไก่หนุ่มที่คัดเลือกจนผ่านแล้ว ราคาเริ่มต้นที่ตัวละ 5000 บาท ส่วนลูกไก่อายุ 1 – 2 เดือนจำหน่ายอยู่คู่ละ 3000 บาท และตัวเมียสาวพร้อมไข่จำหน่ายอยู่ที่ตัวละ 3000 บาท โดยที่ทางฟาร์มมีการจัดเตรียมรถที่ไว้สำหรับขนส่งไก่โดยเฉพาะให้กับลูกค้าต่างจังหวัด